ตัวผมเองยังต้องยอมรับ เลยว่า ในการทำเว็บไซต์หรือเดินทางไปพบลูกค้า ต้อง ใช้ Google map เกือบทุกวัน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหารถติด Google Maps หนึ่งในหลายแอปพลิเคชั่นที่มีการใช้งานมากที่สุด โดยเฉพาะการเดินทางในเมืองที่มีการจราจรคับคั่ง แน่นอนว่าการเปิดแอปฯ แผนที่ส่วนใหญ่ผู้ใช้งานจะเน้นการใช้งาน 3 ส่วนหลักๆ คือการหาเส้นทางการเดินทางที่เร็วที่สุดหรือการหาทางลัด การมองดูเส้นทางที่จะใช้ว่ามีการจราจรหนาแน่นขนาดไหนจากสถานะแถบสีที่เกิดขึ้น และการหาเส้นทางไปยังจุดหมายที่ไม่เคยเดินทางไปมาก่อน
แน่นอนว่าสถานะแถบสีใน Google Maps จะบ่งบอกถึงปริมาณการจราจรที่คับคั่งได้ เช่น สีแดงหมายถึงรถติดมาก สีส้มคือการจราจรคับคั่งแต่พอไปได้ และสีฟ้าคือการจราจรไหลลื่นเป็นปกติ ทว่าบางครั้งสถานะสีแดงบนเส้นทางข้างหน้า ก็อาจเป็นเพียงจุดที่เกิดอุบัติเหตุเท่านั้น หรือควรเป็นจุดที่ควรระวัง เช่น ทางเบี่ยง ซึ่งไม่ปรากฎบนแผนที่
Google Maps จึงเตรียมเปิดฟีเจอร์ใหม่ ให้ผู้ใช้สามารถรายงานสาเหตุของปัญหาจราจรได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทางเบี่ยงหรืออุบัติเหตุข้างหน้า รวมไปถึงการรายงานสถาพพื้นผิวถนนหรือสิ่งกีดขวางบนถนน ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถรายงานจุดดักจับความเร็วได้อีกด้วย
โดยฟีเจอร์เหล่านี้ถูกใช้งานใน Waze แอปพลิเคชั่นนำทางที่ Google เป็นเจ้าของอยู่ และได้รับผลตอบรับที่ดี โดยฟีเจอร์ใหม่นี้จะถูกติดตั้งและสามารถใช้งานได้ทั้งระบบ Android และ iOS อย่างไรก็ตามการขับรถด้วยความเร็วเกิดกำหนดก็ยังเป็นสิ่งผิดกฎหมายอยู่ดี ควรขับด้วยความเร็วตามที่กฎหมายกำหนดนะ จะได้ไม่ต้องเสียค่าถ่ายรูปลงในใบสั่ง
Source: CNN, Daily Mail, TechCrunch